ทำความรู้จักระบบปฏิบัติการ Windows 7


        อย่างที่ทราบกันดีว่าซอฟต์แวร์ของระบบปฎิบัติการ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้เข้าถึงการใช้งานโปรแกรมและแอพพลิเคชั่นได้ง่าย สะดวกสบาย รวดเร็วกระชับทันใจมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นปัญหากับคนบางกลุ่มที่ยังไม่คุ้นชินเกี่ยวกับวินโดวส์ตัวใหม่ล่าสุดอยู่มากหลาย เราจึงเกิดข้อสงสัยและจัดทำข้อมูลของวินโดวส์ 7 (Window 7) รุ่นที่มีการพัฒนามาจากวินโดวส์วิสต้า (Window Vista) ที่ยังไม่สมบูรณ์ ให้สามารถรองรับการใช้ตัวโปรแกรมได้มากขึ้นเรามาทำความรู้จักวินโดวส์ 7 กันเถอะ 


        วินโดวส์ 7 (Windows 7) เป็นซอฟต์แวร์ของระบบปฎิบัติการของไมโครซอฟท์ในสายวินโดวส์สำหรับใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและมีเดียเซนเตอร์โดยวันออกจำหน่ายจริงยังไม่ได้ระบุไว้โดยจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของซอฟต์แวร์ ไมโครซอฟท์ได้มีการประกาศเปิดตัววินโดวส์ 7 ในช่วงปี พ.ศ. 2550 ว่าการพัฒนาวินโดวส์ตัวนี้จะใช้เวลาสามปีให้หลังจากการวางจำหน่ายวินโดวส์วิสต้า(Window Vista)
คุณสมบัติใหม่ของวินโดวส์ตัวนี้จะมีจุดเด่นในส่วนของ รองรับระบบมัลติทัช มีการออกแบบวินโดวส์เชลล์ใหม่ และระบบเน็ตเวิร์กแบบใหม่ภายใต้ชื่อ โฮมกรุ๊ป(HomeGroup) ในขณะที่คุณสมบัติหลายส่วนในวินโดวส์รุ่นก่อนหน้าจะถูกนำออกไปได้แก่ วินโดวส์มูฟวีเมเกอร์ และวินโดวส์โฟโตแกลเลอรี
รุ่นทดสอบล่าสุดคือรุ่น 6.1.7100 (Windows 7 RC) ออกให้ทดสอบเมื่อ 30 เมษายน 2552 โดยในช่วงเวลาเดียวกันได้มีการแจ้งว่าผู้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งอื่นนอกเหนือจากทางเว็บไมโครซอฟท์ มีโอกาสที่ผู้ให้บริการดาวน์โหลดสอดแทรกมัลแวร์หรือโทรจันมากับไฟล์ด้วย
ในประเทศไทย ไมโครซอฟท์ได้จัดงานเปิดตัววินโดวส์ 7 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ณ แฟชันฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
มีผู้ใช้ Windows 7 หลายคนให้การขนานนาม Windows 7 ว่า "Windows 7 คือ Windows Vista ที่ทำสำเร็จ"

เอ๋! พอพูดถึงข้อมูลแล้วเราจะลืมสิ่งสำคัญบางอย่างไปนะ ใช่แล้วค่ะ การพัฒนาของระบบปฎิบัติการวินโดวส์ 7 มันเป็นมายังไงทำไมถึงต้องมีรุ่นนี้ขึ้นมากันนะ ลองไปอ่านดูกันดีกว่านะคะ 

การค้นหาข้อมูลที่เราได้พบคือ ประวัติของการพัฒนาของระบบปฎิบัติการวินโดวส์
ตามข้อมูลแล้วเดิมที่วินโดวส์รุ่นหนึ่งที่ใช้ชื่อรหัสว่า "แบล็คคอมบ์" ได้ถูกวางแผนว่า จะเป็นวินโดวส์รุ่นถัดจากวินโดวส์เอ็กพีและวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 ในปี พ.ศ. 2543 โดยคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ถูกวางแผนจะให้มีในแบล็คคอมบ์นั้นมีอยู่มาก แต่ทว่าระหว่างนั้น ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเริ่มการพัฒนาวินโดวส์รุ่นหนึ่งที่มีชื่อว่า "ลองฮอร์น" (Longhorn) ในปี พ.ศ. 2546 ทำให้การพัฒนาแบล็คคอมบ์ต้องหยุดไปชั่วคราว ในกลางปี พ.ศ. 2546 ลองฮอร์นได้รวมคุณลักษณะต่าง ๆ ซึ่งจะพัฒนาในแบล็คคอมบ์ด้วย แต่หลังจากที่ได้มีการพบข่าวว่า มีไวรัสคอมพิวเตอร์ในลักษณะของเวิร์มสามตัว ได้แก่ บลาสเตอร์ นาชีและโซบิก มีการโจมตีคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานธุรกิจที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซ์พีและวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 บ่อยมาก ในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2546 ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องเปลี่ยนแผนการพัฒนาใหม่ โดยหยุดพักการพัฒนาลองฮอร์นไว้ก่อน แล้วมาพัฒนาเซอร์วิสแพ็คสำหรับวินโดวส์เอกซ์พีและวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 ก่อน ทำให้การพัฒนาของวินโดวส์ลองฮอร์น ซึ่งภายหลังถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น วินโดวส์วิสตานั้น ล่าช้าลง จนไมโครซอฟท์ตัดสินใจล้มเลิกการพัฒนาลองฮอร์นแบบเก่า และเริ่มการพัฒนาแบบใหม่แทน เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2547 คุณลักษณะจำนวนมากถูกตัดออกไปจากวินโดวส์ลองฮอร์น จากนั้น แบล็คคอมบ์ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เวียนนา ในต้นปี พ.ศ. 2549
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2551 ไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่า จะใช้ชื่อวินโดวส์รุ่นใหม่นี้ว่า วินโดวส์ 7 แต่การใช้ชื่อ "วินโดวส์ 7" นั้นก็ทำให้บางคนสับสนเช่นกัน เนื่องจากวินโดวส์ 7 มีหมายเลขรุ่นเป็น 6.1 ซึ่งคล้ายกับหมายเลขรุ่นของวิสตามาก (6.0) และเพิ่มความเข้ากันได้กับโปรแกรมต่าง ๆ ที่ตรวจสอบเพียงหมายเลขรุ่นหลักเท่านั้น คล้ายกับวินโดวส์ 2000 และวินโดวส์เอกซ์พีที่ใช้หมายเลขรุ่นหลัก 5.x เหมือนกัน
นอกจากนี้แล้วระบบปฎิบัติการวินโดวร์ 7 ได้ถูกพัฒนาออกมาหลายรุ่นด้วยนะ อยากรู้แล้วละสิว่ามีรุ่นไหนบ้าง เราไปดูกันเถอะนะ 
ระบบปฎิบัติการวินโดวร์ 7 ของแท้ จะมี 6 เวอร์ชัน และแต่ละเวอร์ชันจะแตกต่างกันดังนี้
Windows 7 Starter 
รุ่นเล็กสุด มีฟีเจอร์การทำงานน้อยสุด เหมาะสำหรับเล่นเน็ต เช็คอีเมลล์ รุ่นนี้ไม่มีวางขาย แต่จะติดตั้งมาพร้อมกับ Netbookเท่านั้น รันโปรแกรมได้พร้อมกันเพียง 3 โปรแกรม มีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Home Group มีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อย่าง Taskbar และ JumpLists 
Windows 7 Home Basic 
รุ่นนี้ไม่มีวางขาย แต่จะติดตั้ง มาพร้อมกับเครื่องใหม่ๆ และจะมีเฉพาะในบางประเทศเท่านั้น รันโปรแกรมได้พร้อมกันจำกัดจำนวน (ขึ้นอยู่กับทรัพยากรของระบบ) มีฟีเจอร์ Live thumbnail previews & enhanced visual experience มีฟีเจอร์การใช้งานระบบเครือข่ายขั้นสูงอย่าง Ad-hoc wireless networks Internet connection sharing และมีฟีเจอร์ Mobility Center 
Windows 7 Home Premium 
เป็นรุ่นเล็กสุดที่มีวางขายแบบกล่องทั่วโลก มาพร้อมกับความสามารถด้านมัลติมีเดียครบครัน สำหรับผู้ใช้ทั่วไปเพียงรุ่นนี้ก็เพียงพอ มีฟีเจอร์ Aero Glass & advanced windows navigation มีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อย่าง Media format และ Handwriting recognition มีฟีเจอร์ Windows Media Center รวมถึง Play To และ Multi-touch
Windows 7 Professional 
รุ่นนี้ฟีเจอร์ทั่วไปไม่แตกต่างจากรุ่น Home Premium เท่าไรนักที่เพิ่มเข้ามาคือสามารถใช้ Windows XP Mode รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมแบบโดเมน มีฟีเจอร์ Advanced network backup และ Encrypting File System และ Location 
Windows 7 Ultimate 
เชื่อว่าหลายคนคงได้ลองใช้กันมาบ้างแล้ว เป็นรุ่นใหญ่สุดของ Windows 7 ที่เพิ่มคุณสมบัติอย่าง Bitlocker และสามารถเปลี่ยน UI เป็นภาษาต่างๆได้ มีฟีเจอร์ DirectAccess และ BranchCache (ต้องใช้งานร่วมกับ Windows Server 2008 R2) และฟีเจอร์ AppLocker 
Windows 7 Enterprise 
รุ่นนี้ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น Ultimate แต่จะมีขายสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นมีฟีเจอร์ BitLocker ที่รองรับไดรว์ทั้งแบบ Internal และ External 


เรามาดูระบบปฎิบัติการวินโดวส์ 7 ขั้นพื้นฐานกันดีกว่า ส่วนรุ่นที่เรานำมาอธิบายประกอบคือ Window 7 Ultimate นะคะ


นี้คือหน้าตา desktop Window 7 รุ่น Ultimate



ตัวเมนูมีการปรับให้การใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น รูปแบบที่ดูสวยงามมากขึ้น


แถบเมนูที่สามารถใช้งานได้รวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะส่วนของ Task Menager และ Option ที่เพิ่มขึ้นมาให้การควบคุมตรงแถบด้านล่างมีมากขึ้นกว่าเดิม


คลิกขวาจะพบว่ามีเมนูดูจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไร แต่มันได้เพิ่มเติมการตั้งค่าของเหล่า Option เข้าไปด้วย ตัวอย่างเช่น ภาพด้านบนนี้จะเป็นการตั้งค่าการจัดเรียงไฟล์หรือไอคอนตามที่เราอยากจะให้เรียงตามชื่อ หรือขนาดที่เราสามารถเลือกได้


ถัดมาจะเป็นการตั้งค่าของไอคอนว่าอยากจะให้มีขนาดเท่าไร จนไปถึงการแสดงตัวไฟล์หรือโปรแกรมที่อยู่บนหน้าเดสท็อป


ในส่วนของ New จะไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก จะเห็นได้จากเมนูที่โชว์อยู่บนหน้าเดสท็อปในรูป


ในส่วนของการตั้งค่าหน้าจอหรือวอลเปเปอร์เราสามารถเลือกรูปแบบได้มากกว่าเก่า และยังสามารถกำหนดเวลาและรูปที่จะเปลี่ยนบนหน้าเดสท็อปได้ตามใจชอบอีกด้วย แล้วเรายังสามารถปรับระดับเสียงควบไปด้วยยังได้เลย


การค้นหาตัวโปรแกรมหรือไฟล์งานที่ต้องสามารถทำได้โดยการพิมพ์หาในช่องค้นหาตามรูปด้านบนได้เลย 


ส่วนเมนูหรือOption อย่างอื่นก็สามารถหาหรือทำได้โดยผ่านตัวหน้าต่างของ Control Panel ได้เลยละ สะดวกสบายดีใช่ไหมละ

อาละมาถึงปัญหาเรื่องภาษาที่อาจจะเกิดตอนลงวินโดวร์กัน นั้นก็คือหาที่เปลี่ยนภาษากันไม่เจอหรือพิมพ์ลงไปแล้วเป็นภาษาอะไรเอ่ยอ่านไม่ออก เรามาดูวิธีปรับภาษากันเถอะ



เคยเจอกันใช่ไหมภาษาอังกฤษไม่มีปัญหา แต่พอภาษาไทยปุ๊บ...มันกลายร่างเป็นภาษาที่เราอ่านไม่ออก 



อยากได้ภาษาไทยกลับมาอ่านได้แบบนี้ใช่ไหม... งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

อันดับแรกเราต้องเข้าไปที่ Control Panel จากนั้นเลือก Region and Language เข้าไปที่ Administrative เลือก Change system locale ก็จะสามารถเลือกภาษาที่ต้องการได้เลย



อีกทางหนึ่งคือพิมพ์ค้นหาโดยเข้าไปที่ปุ่มสตาร์ท แล้วใส่ชื่อที่จะหาลงไป ตามรูปเลยจ้า



อย่าลืมทดสอบหลังจากตั้งค่าเสร็จแล้วด้วยน้า


การใช้งานระบบปฎิบัติการวินโดวร์ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้หรือ User ด้วย การใช้งานของแต่ละรุ่นนั้นแตกต่างและมีขอบเขตที่จำกัดไม่เหมือนกัน การศึกษาก่อนที่จะใช้ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะลองก่อนศึกษาก็ไม่ผิด ทว่ามันอาจจะเกิดผลที่ไม่ดีเท่าไรใช่ไหม ถ้าเกิดเรากดมั่วๆไปจนเครื่องพังหรือตัวระบบค้างคงแย่แน่ๆกับคอมพิวเตอร์ของคุณเอง เพราะฉนั้นอย่าลืมดูคู่มือหรือศึกษาก่อนจะใช้ด้วยน้า

ที่มาของข้อมูล
https://notebookspec.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7/6276/
https://www.varietypc.net/webboard/index.php?topic=636.0
https://www.varietypc.net/webboard/index.php?topic=2913.0
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B9%8C_7


ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.